เห็ดหลินจือ หรือที่ชาวจีนเรียกว่า เห็ดหลิงจือ "Lingzhi" นิยมบริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย ป้องกันและรักษาโรค ซึ่งในปัจจุบันสายพันธุ์ที่นิยมบริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย รักษาโรคมากที่สุด คือสายพันธุ์แดงหรือน้ำตาลแดง เนื่องจากมีสารที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
เห็ดหลินจือ (Lingzhi) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Ganoderma lucidum (Fr.) Karst. ซึ่งมีชื่อเรียกต่างๆ กันไปตามท้องถิ่น ชาวจีนนิยมเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า "หลิงจือ" ส่วนชาวไทยส่วนใหญ่นิยมเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า "หลินจือ" แต่คนไทยบางคนเรียกเห็ดอมตะ เห็ดจวักงู หรือบางคนก็เรียกว่า เห็ดหมื่นปี การใช้ชื่อเห็ดหมื่นปีจะสอดคล้องกับความเชื่อที่ว่ากินแล้วจะอายุยืน เพื่อให้มีความเข้าใจตรงกันในที่นี้ขอเรียกเห็ดชนิดนี้ว่า "เห็ดหลินจือ"
เห็ดหลินจือนิยมบริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย ป้องกันและรักษาโรค ซึ่งในปัจจุบันสายพันธุ์ที่นิยมบริโภคเพื่อบำรุงร่างกาย รักษาโรคมากที่สุด คือเห็ดหลินจือแดงหรือน้ำตาลแดง เนื่องจากมีสารที่เป็นประโยชน์มากที่สุด
เห็ดหลินจือ ( Lingzhi) เป็นยาจีนที่ใช้กันมานาน นับตั้งแต่สมัยจักรพรรดิฉิ๋นซีฮ่องเต้ ผู้สร้างกำแพงเมืองจีน เป็นต้นมา เห็ดหลินจือเป็นของหายากมีคุณค่าสูงในทางสมุนไพรจีน และได้ถูกบันทึกไว้ในคัมภีร์โบราณ “เซินโหลงเปิ่นฉ่าวจิง” ซึ่ง เป็นตำราเก่าแก่ที่สุดของจีนมีคนนับถือมากที่สุด ได้กล่าวไว้ว่า เห็ดหลินจือ บำรุงร่างกายใช้เป็นยาอายุวัฒนะได้ดีเยี่ยมและสามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้
ในคัมภีร์โบราณ “เซินโหลงเปิ่นฉ่าวจิง” ยังได้แบ่งสมุนไพรออกเป็น 3 ชั้น คือ ชั้นสูง กลาง และต่ำ สมุนไพรที่จัดอยู่ชั้นสูงนั้นเป็นยาประเภทอายุวัฒนะ ยาบำรุง ไม่เป็นพิษเป็นภัย มีความปลอดภัยสูง และกินได้ระยะยาว ซึ่งคนจีนโบราณเขาจัดเห็ดหลินจือ ว่าเป็นสมุนไพรในชั้นสูงเช่นเดียวกันกับโสม ซึ่งสมุนไพร 2 ชนิดนี้มีความปลอดภัยสูงเช่นกัน ซึ่งในคำภีร์โบราณแสดงในเราเห็นว่าคนจีนสมัยก่อนมองว่าเห็ดหลินจือเป็นยา บำรุงร่างกาย จัดเป็นยาอายุวัฒนะอย่างดี ไม่มีพิษมีภัย กินได้ระยะยาว
ตารางจำแนกสายพันธุ์ของเห็ดหลินจือตามสี
เห็ดหลินจือแยกตามสี
เห็ดหลินจือแยกตามสี | สีของเห็ด | สรรพคุณทางยา |
ชิงจือ หลงจือ | สีเขียว | บำรุงตับ สายตา ระบบประสาท |
ชือจือ ตันจือ | สีแดง น้ำตาลแดง | บำรุงหัวใจ ระบบทางเดินหายใจ-ปอด สมอง |
หวงจือ จินจือ | สีเหลือง | บำรุงม้าม ระบบประสาท |
ไปจือ วีจือ | สีขาว | บำรุงตับ ระบบทางเดินหายใจ-ปอด |
เฮยจือ เฮ๋าจือ | สีดำ | บำรุงไต ทางเดินปัสสาวะ |
จื่อจือ มู่จือ | สีม่วง | บำรุงกระดูก |
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเห็ดหลินจือที่จะใช้ทำยาเป็นเห็ดหลินจือพันธุ์ใด ต้องมีสีเหลืองอยู่ใต้ท้องดอกถึงจะสามารถนำมาทำเป็นยาได้ ในพจนานุกรมเห็ดตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1983 บันทึกไว้ว่า เห็ดหลินจือมีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า 113 สายพันธุ์ โดยมีอยู่ในประเทศจีนมากที่สุดถึง 86 สายพันธุ์ ปัจจุบันสายพันธุ์ที่นิยมมีสรรพคุณทางยาดีที่สุดคือสายพันธุ์ที่มีสีแดงหรือ มีสีน้ำตาลแดง Ganoderma lucidum ซึ่งก็มีอยู่หลายสายพันธุ์ ปัจจุบันประเทศไทยสามารถเพาะเลี้ยงได้แล้ว
อย่างไรก็ตามไม่ว่าเห็ดหลินจือที่จะใช้ทำยาเป็นเห็ดหลินจือพันธุ์ใด
ต้องมีสีเหลืองอยู่ใต้ท้องดอกถึงจะสามารถนำมาทำเป็นยาได้
ในพจนานุกรมเห็ดตีพิมพ์ในปี ค.ศ. 1983 บันทึกไว้ว่า
เห็ดหลินจือมีขึ้นอยู่ตามธรรมชาติมากกว่า 113 สายพันธุ์
โดยมีอยู่ในประเทศจีนมากที่สุดถึง 86 สายพันธุ์
ปัจจุบันสายพันธุ์ที่นิยมมีสรรพคุณทางยาดีที่สุดคือสายพันธุ์ที่มีสีแดงหรือ
มีสีน้ำตาลแดง Ganoderma lucidum ซึ่งก็มีอยู่หลายสายพันธุ์
ปัจจุบันประเทศไทยสามารถเพาะเลี้ยงได้แล้ว
Link: เรื่องที่เกี่ยวข้องกับเห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ [lingzhi]
สารสำคัญในเห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ รักษาโรค
เห็ดหลินจือกับโรคหัวใจ
เห็ดหลินจือกับโรคมะเร็ง
เห็ดหลินจือ- มะเร็งลำไส้ใหญ่
วิจัยเห็ดหลินจือกับโรคมะเร็ง
วิธีการบริโภคเห็ดหลินจือ
เห็ดหลินจือ กาโน-เห็ดหลินจือแดง 6 สายพันธุ์ รากและดอก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น